Friday, February 27, 2015

กรณีศึกษา JMT

วันนี้ลองมาวิเคราะห์กราฟ JMT ดู แนว technical ล้วนๆ วิเคราะห์โดยวิธี VPA หรือ Volume Price Analysis + เทคนิคการดูวอลุ่มที่แนวรับ-ต้านของ Tim Ord
รายละเอียดตามที่อธิบายในรูปเลยครับ ราคาปิดเกินครึ่งแท่งก้อจริง แต่ปิดต่ำกว่าที่แนวต้านเดิม แถมวอลุ่มน้อยกว่าที่แนวต้านเดิมเยอะมาก
คาดว่าตัวนี้จะเบรคหลอกอีกเช่นกัน ยังไงมาติดตามผลกันอาทิตย์หน้า




Monday, February 23, 2015

เปรียบเทียบกลุ่มสินเชื่อ THANI, ASK, IFS, GL, TK

เห็นช่วงนี้วิ่งกันจัง เลยลองเอามาเปรียบเทียบดู เอามา 5 ตัว จริงๆมีเยอะกว่านี้ แต่ขี้เกียจ หุหุ

เท่าที่ลองดูจาก Fundamental เฉพาะตัวเลข แบบมั่วๆ ส่วนตัวชอบ IFS ที่สุด ตามด้วย ASK แล้วก้อ THANI ส่วน GL กับ TK ไม่ไหวนะ

ที่ชอบ IFS ที่สุดเพราะ มี Net Profit Margin (npm) ดีที่สุด และ ปี 2014 เพิ่มขึ้นด้วย แถม size เล็กกว่าเพื่อน คิดดอาเองว่าถ้าโต จะโตได้ไวและแรงกว่าเพราะตัวเล็ก

ส่วน THANI npm 2014 ลดลง แต่ REVENUE หรือรายได้เพิ่มขึ้น ผมว่าก้อยังโอนะ เติบโต ชอบ

ASK ตัวนี้งบ 4Q14 ยังไม่ออก แต่ดูจาก chart แล้วกำไรตัวนี้เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ สวยงามที่สุด คิดว่างบน่าจะออกมาโอเคตามปกติ ไม่หวือวา


รูปข้างล่างเป็นกราฟ % การเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงเวลาที่ผ่านมาของ หุ้นทั้ง 5 ตัว ตามรูปเลยขี้เกียจอธิบายอะครับ --" คือ THANI เหวียงแรงสุดตั้งแต่ในอดีตละ ตามด้วย ASK (TK ไม่ดูแล้วนะ งบน่ากลัว) ส่วน IFS นี่ในอดีตนิ่งมาก ตอนนี้พึ่งมาระเบิด แถมเป็นตัวเดียวที่ทำ All Time High ด้วย ในใจแอบคิดนะว่าถ้า IFS วิ่งต่อ ตัวนี้แหละจะวิ่งแรงที่สุด แต่ช่วงนี้มันเหวี่ยงแรงมาก ยังหาจังหวะเข้าดีๆไม่ได้เลย


 สุดท้ายมาดูตัวที่ผมเข้าไปแล้วคือ THANI ตอนเข้าไม่ได้ดู Fundamental อะไรเท่าไหร่เลย กราฟมันสวย ผมชอบ เลยเข้าเลยตรงเส้นประสีเขียว Target ผมคงอยู่แถวๆ Hi เก่าคือ 4.70 โดยประมาณ ยังไงก้อมาตามลุ้นดู ASK ก้อเข้าไปแล้ว รอดูจะวิ่งมั้ย ส่วน IFS คงต้องหาจังหวะเข้าต่อไปให้ได้



วันนี้ก้อคงพอแค่นี้ก่อน ไว้ขยันจะมาอัพเดทสไตล์ มั่วๆ อีกครับ :)

Saturday, February 7, 2015

SET 6 Feb 2015

วันนี้มีเวลานั่งดู SET รู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง ราคาน้ำมันตกต่ำ ผันผวนมาก Global Macro ก้อวุ่นวาย มีปัญหาเศรษฐกิจไหนจะรัสเซีย ไหนจะกรีซ แถมยัง สเปนมีแววจะมีปัญหา อีกทั้งหลายๆประเทศเริ่มเกิดสงครามค่าเงิน เพราะเริ่มเกิดปัญหาเงินฝืดกัน ค่าเงินแข็ง ก้อต้องออกมาตราการต่างๆ ทั้งลดดอกเบี้ย ทำ QE ส่วนไทยยังช้าเหมือนเคย รอให้อเมริกาขึ้นดอกเบี้ย แล้วหวังว่าเงินจะไหลออกทำให้บาทอ่อนเองโดยอัตโนมัติ เลยยังไม่ทำอะไรรอดูสถานการณ์ไปก่อน ปัญหาคืออเมริกาขาดดุลมากในรอบหลายๆปีมานี้และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเพราะดอลล่าร์แข็งทำให้ส่งออกมีปัญหาแข่งขันไม่ได้ หากอเมริกาขึ้นดอกเบี้ยก้อยิ่งจะซ้ำเติมปัญหานี้ ส่วนตัวเลยคิดว่าอเมริกา (น่าจะ)คงยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ เลยกลายเป็นว่าค่าเงินบาทเลยแข็งกว่าชาวบ้าน ทำให้ส่งออกทรุดกว่าเดิม --"

สิ่งเดียวที่จะกระคุ้นเศรษฐกิจไทยได้ในตอนนี้คงต้องเป็น Domestic Play เน้นงาน Infrastructure ของรัฐ ซึ่งมีเม็ดเงินสะพัดออกมาแน่ๆ กับ Digital Economy ซึ่งต้องมาดูว่างบประมาณจะไปลงทุนตรงส่วนไหน ส่วนตัวผมว่าน่าจะเป็นการลงทุนเรื่องโครงข่ายอินเตอร์เน็ทความเร็วสูง กับระบบ Software และ Server

เรื่อง nano finance อาจต้องศึกษาดูให้ดีว่าบริษัทที่ปล่อยกู้จะได้ผลดีจริงๆหรือไม่เพราะความเสี่ยงหนี้สูญสูงมากเพราะปล่อยกู้โดยไม่มีหลักประกัน แลกกับอัตราดอกเบี้ย 30กว่า% ต่อปี

พลังงานทางเลือกยังน่าสนใจ เล่นได้อีกนาน แต่อาจต้องระวังตัวที่ปั่นาคาขึ้นมาสูงมากๆแล้ว


ย้อนกลับมาที่ SET จากเหตุผลเรื่องความไม่แน่นอนของ Global Macro ช่วงนี้ กับกราฟซึ่งมีลักษณะทำ Rising Wedge ผมเลยค่อนข้างกังวลที่แนว 1620-1630 ว่า SET อาจจะร่วงลงมาได้

ตั้งแต่ต้นปีพอร์ตบวกขึ้นมาพอสมควร ช่วงนี้คงต้องเทรดแบบระมัดระวัง ไม่โลภ อาจต้องวาง trailing stop เพื่อขายออกให้เร็ว รักษากำไรไว้ก่อน ไม่โลภ

ปล.เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว คิดๆเอาเท่าที่รู้ ผิดถูกไม่รู้เหมือนกัน คงต้องรอดูผลลัพท์ที่เกิดขึ้น