Monday, November 30, 2015

สรุปพอร์ตประจำเดือน พฤศจิกายน 2558

สรุปพอร์ตประจำเดือน พฤศจิกายน 2558




YTD: +16.10%

Drawdown from Peak: -7.41%

Max. Drawdown: -18.49%

Avg. Equity Gain: 1.21%

Avg. Equity Loss: -0.51%

Avg. Reward/Risk Ratio : 2.38 เท่า


(พวก Avg. Gain/ Loss ที่ผมยกมาสรุป ผมไม่ได้มองเป็นตัวๆนะครับ ผมมองเป็นผลตอบแทนเทียบกับทั้งพอร์ตเลย มันจะนิ่งกว่า สาเหตุเพราะ   ถ้าเราคิดเป็นรายตัวแล้วเฉลี่ย เกิดบางตัวซื้อนิดเดียวแต่กำไรเยอะ แค่นี้ค่าเฉลี่ยก้อเพี้ยนแล้วครับ แต่ถ้าเทียบกับมูลค่าพอร์ตเลยจะเห็นกันชัดๆเลยว่าได้มากได้น้อย)


ช่วงนี้เทรดยากจริงๆ ทั้งๆที่พยายามคุม position loss ไม่ให้สูงมากแล้ว แต่พอร์ตก้อยังค่อยๆไหลลงตาม SET อยู่ดี จนปัญญาจริงๆ

แต่การเทรดยากแบบนี้ก้อดี ทำให้ได้เรียนรู้หลายๆอย่าง ตอนนี้ก้อพยายามไม่อวดรู้ ไม่พยายามคาดเดาตลาด เทรดนิ่งๆ ให้เห็นอะไรชัดๆก่อนค่อยทำตามระบบ เดี๋ยวลองมาดูผลกันอีก 1 เดือน มาดูว่าปิดปีนี้พอร์ตจะเป็นยังไงบ้าง

ขอให้ทุกท่านโชคดีในการเทรดครับ :)

ปล. ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเดทอะไรมาก เพราะมัวแต่วุ่นๆกับการอัพเดท windows 10 ครับ เลยไม่มีเวลามาอัพเดทเลย


Friday, November 20, 2015

Portfolio Performance 20/11/15

สรุปพอร์ต 20 November 2015

พอร์ตช่วงนี้ไปไปไหนเลย YTD +21.05%  วนเวียนอยู่แถวๆ 20% +- มาเป็นเดือนๆแล้ว

ช่วงหลังๆคุม Drawdown ได้ดีขึ้น พยายามไม่ดื้อและไม่โลภ ถ้าอาการไม่ดีมักจะรีบคัททิ้งก่อน ปัญหาที่เจอบ่อยๆช่วงนี้คือ ใจแตก ชอบซื้อหุ้นปั่นเล่น เพราะเห็นมันวิ่งแรงดี แต่สุดท้ายก้อได้บทเรียนว่ามักจบไม่สวย ก้อดีไปถือว่าเสียค่าครู








Getting Start

จุดประสงค์ในการทำเพจ "SUFFICIENT INVESTOR"

       
        ผมเริ่มเทรดหุ้นมาได้ประมาณ 3 ปี ช่วงแรกๆที่เทรดผมก้อทำเหมือนๆกับคนส่วนใหญ่ คือเริ่มหากรุ๊ปไลน์ หาเพจหุ้นในเฟสบุ๊ก แล้วก้อกด Like กด Follow ตามอ่านข่าววงใน(เขาว่างั้น) ซื้อหุ้นตามเซียนที่ใบ้หุ้นในเพจ ตามอ่านเพจที่เค้าสอนเทรด ตามอ่านกระทู้ต่างๆที่ห้องสินธรใน Pantip ซึ่งแต่ละคนก้อมีวิธีที่แตกต่างหลากหลายมาก ผิดถูกไม่รู้ ไม่มีผลงานอะไรมาการันตีเลย

             
แต่น่าแปลก เพราะมีสิ่งหนึ่งที่เพจเหล่านี้ไม่มีเหมือนๆกัน นั่นก้อคือ การวัดผล หรือการโชว์ Performance พอร์ตของตัวเอง ว่าได้กำไรหรือขาดทุน กี่เปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่าแล้วยังงี้เราจะรู้ได้ยังไงหล่ะว่าเพจต่างๆที่เราติดตามนั้น เก่งจริงรึปล่าว สิ่งต่างๆที่สอนกันในเพจนั้น คนสอนเองนำไปใช้ได้ผลจริงมั้ย? เพราะหลายๆเพจ แจกหุ้นแต่ละวันนี่เยอะจริงๆ เยอะจนประเมินผลไม่ได้ ว่าหลายๆตัวที่ให้ไปนั้นได้กำไรจริงๆรึปล่าว และคงไม่มีใครมานั่งเก็บข้อมูลว่าหุ้นที่บอกมาทั้งหมด กำไรหรือขาดทุนกี่เปอร์เซ็นต์

บางเพจก้อสรรหารูปแบบการเทรดแปลกๆที่ฟังดู advance ใช้ indicator มากมาย แต่ไม่เห็นใช้ให้ดูจริงๆจังๆ แค่เกริ่นๆแล้วก้อบอกว่ามันดีจริงๆ แล้วก้อมาเปิดคอร์สชวนลูกเพจไปเรียนกัน ทั้งๆที่ผู้สอนก้อไม่เคยมีอะไรมาแสดงให้เห็นเลยว่าเก่งจริง ทำเงินในตลาดหุ้นได้จริงๆ แล้วอย่างนี้เราจะเชื่อถือเพจเหล่านั้นได้หรือครับ ?


ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มทำเพจ "Sufficient Investor" เพื่อเขียนเล่าเรื่องราวการเทรดของผม ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด วิธีการเทรด การเลือกหุ้น การแชร์ข่าวสาร หรือการวิเคราะห์ในรูปแบบของผมเอง บวกกับประสบการณ์ที่ค่อยๆสะสมและเรียนรู้ในการเทรดมาเป็นเวลาประมาณ 3 ปี สะท้อนออกมาเป็นผลลัพธ์ในการเทรดจริงๆ ตามความสามารถที่มีในขณะนั้น แล้วนำผลัพธ์ในการเทรดนั้นมาแชร์ในเพจด้วย


เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นว่าแนวทางในการเทรดของผมเป็นอย่างไรบ้าง Performance ดีหรือไม่ดีอย่างไร ผู้อ่านจะได้พิจารณาได้ว่าสิ่งที่ผมทำอยู่มันเวิร์คหรือไม่เวิร์ค และผมก้อหวังว่าผู้อ่านจะได้มีความรู้สึกเหมือนได้มีส่วนร่วมไปกับการเดินทางในตลาดหุ้นของผมจริงๆ ยิ่งมีผู้อ่านเข้ามาร่วมแชร์ ร่วมแสดงความคิดเห็นในเพจ ผมก้อยิ่งรู้สึกยินดีครับ เหมือนกับได้เพื่อนร่วมเดินทางไปในการเทรด


สุดท้ายนี้ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร กำไร หรือขาดทุน ทุกๆอย่างล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากการเทรดของผม และผมก้อหวังว่าผู้อ่านทุกๆท่านจะได้ประโยชน์ไม่มากก้อน้อยกับการติดตามเพจนี้ครับ



Thursday, November 19, 2015

Double Bottom Pattern



วันนี้เจอเคสน่าสนใจเลยอยากเอามาเขียนเก็บไว้อ่านนั่นก้อคือ Double Bottom Pattern
ทุกทีก้อเขียนโพสในเพจไปเรื่อยแต่พอจะกลับมาอ่านก้อหาไม่เจอ สุดท้ายพึ่งมารู้ว่ามี App Note ด้วย เออดีแหะ น่าจะหาง่ายขึ้นนะ ไม่ต้องเขียนทิ้งๆขว้างๆอีก

Double Bottom เป็น Price Pattern ที่ค่อนข้างดูง่าย เห็นชัดเจน ไม่มั่ว ไม่มโนแน่นอน เพียงแต่ต้องจำทฤษฎีของมันนิดหน่อย ซึ่งก้อมีไม่กี่ข้อดังนี้


  1. ก่อนหน้าที่จะเกิด Double Bottom หุ้นต้องมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างน้อย 30%
  2. ฐานต้องมีความลึกไม่เกิน 40%
  3. การสร้างฐานต้องมีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 7 สัปดาห์
  4. จุดยอดตรงกลาง W ควรอยู่สูงกว่าครึ่งหนึ่งของฐาน และควรอยู่ต่ำกว่าจุดยอดของขาแรกทางด้านซ้ายมือ
  5. จุดต่ำสุดของขาที่สองควรอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของขาแรก
  6. จุดเข้าซื้อคือจุดที่อยู่เหนือจุดยอดตรงกลางของ W
  7. ยายามอย่าซื้อไล่ราคาเมื่อราคาวิ่งไปเกิน 5% ของจุดที่ควรซื้อ (เหนือจุดยอดตรงกลางของ W) เพราะอาจโดน stop loss ได้ง่ายหากโดนเทขายลงมา เพราะซื้อแพงเกินไป
  8. วอลุ่มในวันที่เบรคเอาท์ขึ้นมาควรมากกว่า 40-50% เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน

ผมได้ลองยกตัวอย่าง PTG ขึ้นมาเนื่องจากว่ามันกำลังมีลุ้นที่จะเบรคพอดี รายละเอียดการวิเคราะห์ต่างๆ ผมเขียนไว้อยู่ในภาพหมดแล้ว ยังไงคงต้องมาลองติดตามดู แล้วค่อยมารีวิวอีกครั้งนึงครับ


อัพเดท PTG  9/10/15 มาตามนัด ถึงกับต้องแบ่งขายตัวอื่นมาเข้ากันเลยทีเดียว เพราะตังหมด หุหุ


อัพเดทสุดท้าย 19/11/15 จบด้วยการ False Breakout ถือว่า Fail ไป ก้อต้องทำใจ เพราะไม่จำเป็นว่าเมื่อเกิด Pattern แล้วหุ้นจะต้องวิ่งไปตามที่คาดหวังทุกครั้งไป มันเป็นเพียงความน่าจะเป็นเท่านั้น อันนี้ต้องจำไว้เสมอ ดังนั้นจึงต้องกำหนดจุด Stopp Loss ทุกครั้ง



หุ้น EPG


สวัสดีครับ วันนี้ผมกลับมาเขียนบทความใน Blog อีกครั้ง เพราะผมมองว่า BLOG จัดระเบียบได้ดีกว่า เพจใน FACEBOOK ค่อนข้างมาก

Blog สามารถ Tag แยกเป็นหมวดหมู่ และจัดเรียงหน้าเพจได้หลากหลายรูปแบบ มีลูกเล่นเยอะ ทำให้ค้นหาบทความเก่าๆได้ง่าย แตกต่างกับ FACEBOOK ที่โพสเก่าๆมักจะตกหล่นหลายไป กว่าจะหาเจอนี่หากันจนเหนื่อย

จุดประสงค์หลักในการเขียนบทความของผมก้อเพื่อ เขียนเก็บไว้ดูข้อมูลย้อนหลัง เพราผมเป็นคนขี้ลืมมากกกกกก :P

ยังไงเดี๋ยวผมจะค่อยๆอัพเดทและปรับแต่ง Blog นี้ให้น่าอ่านมากขึ้นนะครับ จะดึงบทความเก่าๆที่เก็บไว้ใน FACEBOOK มาแปะเก็บไว้ในนี้นะครับ หวังว่าผู้อ่านจะชอบกัน

เอาหล่ะเสียเวลามาเยอะแล้ว มาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

หุ้น EPG บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)


ลักษณะธุรกิจ:

EPG ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีการลงทุนหลักในธุรกิจแปรรูปพลาสติก ได้แก่

  1. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อนและความเย็น ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด (AFC) ซึ่งเป็นบริษัทแกน ภายใต้เครื่องหมายการค้า "AEROFLEX"
  2. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด (ARK) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "AEROKLAS" และ
  3. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ดำเนินการโดย บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด (EPP) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "EPP"

ที่มา: สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน EPG


หุ้นตัวนี้ ผมได้ดูผู้บริหารมาออกรายการทีวี พอได้ฟังแล้วบอกได้เลยว่าเป็นบริษัทที่น่าสนใจมาก เพราะทางบริษัทได้พยายามคิดค้นสร้าง Innovation ใหม่ๆตลอด เช่นล่าสุด บริษัทได้พยายามสร้าง "Bowl Liner" หรือ ที่รองจาน ชาม แบบใช้แล้วทิ้ง ตามร้านอาหารจานด่วนต่างๆจะได้ไม่ต้องล้าง เพียงแค่นำ Bowl Liner ซึ่งเป็นพลาสติคบางๆ ไปวางซ้อนบน จาน ชาม แล้วเสริร์ฟอาหารได้เลย เมื่อลูกค้าทานเสร็จก้อหยิบไปทิ้งได้เลย ซึ่งประหยัดเวลาและค่าล้างจานไปได้

และก้อยังมีสินค้าดีๆที่น่าสนใจมากมาย ตามรูปข้างล่างเลย


ที่มา: Fact Sheet 2Q15


ส่วนเรื่องพื้นฐานกิจการ ดีสุดๆครับ เนื่องจากวัตถุดิบหลักมาจากปิโตรเคมี เมื่อราคาน้ำมันลง EPG ได้ประโยชน์แน่นอน


มาดูกราฟกันบ้าง กราฟสวยมาก กำลังวิ่ง ATH กันเลย ช่วงนี้คงต้องรอให้ย่อ แล้วทยอยสะสมเพิ่ม


สรุปโดยรวม:

ผมมองว่าธุรกิจของ EPG น่าจะโตไปได้เรื่อยๆ  โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันตกต่ำ จะส่งผลให้ margin ของบริษัทสูงขึ้น ดูได้จาก ปีนี้ที่ NPM เพิ่มเป็น 15.48% จากที่ก่อนหน้านั้นทำได้ราวๆ 9% เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก แล้วจะไม่ให้สนใจได้ยังไงหล่ะครับ

วันนี้คงพอแค่นี้ก่อนนะครับ ไว้มีเวลาจะมาอัพเดทเพิ่มเติม :)

ใครมีความคิดเห็นยังไง ก้อเขียนกันเข้ามาแลกเปลี่ยนได้เลยนะครับ

สวัสดีครับ