Thursday, November 19, 2015

หุ้น EPG


สวัสดีครับ วันนี้ผมกลับมาเขียนบทความใน Blog อีกครั้ง เพราะผมมองว่า BLOG จัดระเบียบได้ดีกว่า เพจใน FACEBOOK ค่อนข้างมาก

Blog สามารถ Tag แยกเป็นหมวดหมู่ และจัดเรียงหน้าเพจได้หลากหลายรูปแบบ มีลูกเล่นเยอะ ทำให้ค้นหาบทความเก่าๆได้ง่าย แตกต่างกับ FACEBOOK ที่โพสเก่าๆมักจะตกหล่นหลายไป กว่าจะหาเจอนี่หากันจนเหนื่อย

จุดประสงค์หลักในการเขียนบทความของผมก้อเพื่อ เขียนเก็บไว้ดูข้อมูลย้อนหลัง เพราผมเป็นคนขี้ลืมมากกกกกก :P

ยังไงเดี๋ยวผมจะค่อยๆอัพเดทและปรับแต่ง Blog นี้ให้น่าอ่านมากขึ้นนะครับ จะดึงบทความเก่าๆที่เก็บไว้ใน FACEBOOK มาแปะเก็บไว้ในนี้นะครับ หวังว่าผู้อ่านจะชอบกัน

เอาหล่ะเสียเวลามาเยอะแล้ว มาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

หุ้น EPG บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)


ลักษณะธุรกิจ:

EPG ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีการลงทุนหลักในธุรกิจแปรรูปพลาสติก ได้แก่

  1. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อนและความเย็น ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด (AFC) ซึ่งเป็นบริษัทแกน ภายใต้เครื่องหมายการค้า "AEROFLEX"
  2. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด (ARK) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "AEROKLAS" และ
  3. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ดำเนินการโดย บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด (EPP) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "EPP"

ที่มา: สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน EPG


หุ้นตัวนี้ ผมได้ดูผู้บริหารมาออกรายการทีวี พอได้ฟังแล้วบอกได้เลยว่าเป็นบริษัทที่น่าสนใจมาก เพราะทางบริษัทได้พยายามคิดค้นสร้าง Innovation ใหม่ๆตลอด เช่นล่าสุด บริษัทได้พยายามสร้าง "Bowl Liner" หรือ ที่รองจาน ชาม แบบใช้แล้วทิ้ง ตามร้านอาหารจานด่วนต่างๆจะได้ไม่ต้องล้าง เพียงแค่นำ Bowl Liner ซึ่งเป็นพลาสติคบางๆ ไปวางซ้อนบน จาน ชาม แล้วเสริร์ฟอาหารได้เลย เมื่อลูกค้าทานเสร็จก้อหยิบไปทิ้งได้เลย ซึ่งประหยัดเวลาและค่าล้างจานไปได้

และก้อยังมีสินค้าดีๆที่น่าสนใจมากมาย ตามรูปข้างล่างเลย


ที่มา: Fact Sheet 2Q15


ส่วนเรื่องพื้นฐานกิจการ ดีสุดๆครับ เนื่องจากวัตถุดิบหลักมาจากปิโตรเคมี เมื่อราคาน้ำมันลง EPG ได้ประโยชน์แน่นอน


มาดูกราฟกันบ้าง กราฟสวยมาก กำลังวิ่ง ATH กันเลย ช่วงนี้คงต้องรอให้ย่อ แล้วทยอยสะสมเพิ่ม


สรุปโดยรวม:

ผมมองว่าธุรกิจของ EPG น่าจะโตไปได้เรื่อยๆ  โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันตกต่ำ จะส่งผลให้ margin ของบริษัทสูงขึ้น ดูได้จาก ปีนี้ที่ NPM เพิ่มเป็น 15.48% จากที่ก่อนหน้านั้นทำได้ราวๆ 9% เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก แล้วจะไม่ให้สนใจได้ยังไงหล่ะครับ

วันนี้คงพอแค่นี้ก่อนนะครับ ไว้มีเวลาจะมาอัพเดทเพิ่มเติม :)

ใครมีความคิดเห็นยังไง ก้อเขียนกันเข้ามาแลกเปลี่ยนได้เลยนะครับ

สวัสดีครับ

No comments:

Post a Comment