จากโพสก่อนหน้าที่ผมมโนไปไกลกับหุ้น หมูๆไก่ๆ CPF และ TFG
มาวันนี้ CPF เบรคขึ้นไปแล้วครับ วันนี้ +6.30% มาปิดที่ 33.75 บาท ติดแนวต้านหลักใหญ่ๆเลย ถึงจะไม่ใช่ ATH แต่นี่คือ High ที่ไม่เคยเบรคได้เลยตั้งแต่ปี 2013 จนถึงวันนี้ก้อ 7 ปีเข้าไปแล้ว
นั่นหมายความว่า ถ้าเบรคได้จริงๆจังๆเมื่อไหร่ มีโอกาสที่จะวิ่งยาวๆไปท้าทาย All Time High แถวๆ 42.50 บาท แน่นอน
ผมมองว่าองค์ประกอบทุกอย่างมันพร้อมแล้ว มันน่าจะเป็นไปได้และสมควรแก่เวลาที่ CPF จะวิ่งได้แล้ว เพราะถ้าไม่วิ่งตอนนี้ ผมก้อไม่รู้ว่าจะไปวิ่งตอนไหนแล้วแหละ
มาดูที่กราฟ Technical กัน
Day - เกิดรูปแบบ VCP (Votility Contraction Pattern) ของพี่ Mark Minervini ชัดเจน วอลุ่มก้อแห้ง และวันนี้ก้อ Breakout ขึ้นไปสวยงามพร้อมวอลุ่ม
Week - กำลังท้าทาย High เดิม ผมมองว่าที่ราคานี้ วันนี้ คงไม่มีใครกล้าซื้อ เพราะมองว่ามันติดแนวต้าน คงจะรอให้มันย่อ และถ้ามองภาพเล็กจะคิดว่ามันขึ้นมาจาก 20 บาท เทียบกับวันนี้ก้อเยอะมากแล้ว คงไม่กล้าซื้อ
ซึ่งตรงนี้แหละที่เจ้ามือจะลากขึ้นไปได้ง่ายเพราะไม่มีใครกล้าตาม แต่ถ้าไม่ก้อดอยกันตรงนี้แหละ 🤣
*** ทั้งหมดที่เขียนมานี่ผมมโนล้วนๆนะครับ ส่วนตัวผมมีหุ้นตัวนี้ และวันนี้ผมก้อซื้อเพิ่มเข้าไปอีกด้วย ผมถืออยู่ประมาณ 25% ของพอร์ต พราะฉะนั้นไบแอสมากๆแน่นอน ถ้าใครชอบก้อควรทำการบ้านก่อนตัดสินใจครับ อย่าเชื่อผมเพราะผมไม่ได้เก่ง ยังขาดทุนอีกเยอะ กำไร ขาดทุน ขอให้เกิดจากตัวเราเองดีที่สุด อย่าซื้อตามใครไปเรื่อย
สู้ไปด้วยกันครับ 😁
Tuesday, July 14, 2020
CPF กับการ Breakout ในช่วงที่ SET กำลังอ่อนแอ
Friday, June 26, 2020
INET ลิ่งแรกของปี
ปีนี้ผมเจ็บเยอะมาก ขาดทุนกระจาย พอมาได้ตัวนี้ลิ่งนึง ดีใจน้ำตาแทบไหล ถ้าใช้เกณฑ์ 30% แบบเมื่อก่อน เมื่อวานผมคงเข้าไม่ทันแน่ๆ โชคดีไป
ผมเข้าไปซื้อแถวๆราคาปิดเมื่อวาน ราวๆ 2.40 บาท เรียกว่าวัดใจมาก แต่ถ้าดูจากแนวต้านที่มันเบรคขึ้นมา หรือดูแถวๆเส้น SMA200 วัน ที่ 2.30 บาท ความเสี่ยงอยู่ที่ราวๆ 5% +- ซึ่งพอจะรับได้
เหตุผลที่ผมสนใจตัวนี้เพราะ
ถ้าแก้ปัญหาเรื่องเงินทุนได้ น่าจะคล่องตัวขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายก้อจะลดลง รับงานใหญ่ๆได้มากขึ้น และจะได้มีเงินไปลงทุนสร้าง Data Center เพิ่มได้ สร้างเสร็จก้อเอามาขายเข้ารีทเอาเงินไปหมุนต่อ
ลองมาติดตามกันดูครับว่าจะเป็นยังไงต่อ มันจะดีจริงมั้ย หรือหลอกเม่าไปติดดอย 🤣
ปล. เทรดช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ ซื้อน้อยๆ คัทไวๆ SET ช่วงนี้น่ากลัว
ผมเข้าไปซื้อแถวๆราคาปิดเมื่อวาน ราวๆ 2.40 บาท เรียกว่าวัดใจมาก แต่ถ้าดูจากแนวต้านที่มันเบรคขึ้นมา หรือดูแถวๆเส้น SMA200 วัน ที่ 2.30 บาท ความเสี่ยงอยู่ที่ราวๆ 5% +- ซึ่งพอจะรับได้
เหตุผลที่ผมสนใจตัวนี้เพราะ
- อุตสาหกรรมนี้น่าสนใจ ยังโตได้อีกเยอะ
- ทรงกราฟน่าสนใจ และมีวอลุ่มเข้าช่วงนี้
- เตรียมตั้งกองทรัสต์ (อีกครั้ง ครั้งแรกจะตั้งกองทุน IFF แต่ไม่สำเร็จ ติดรอใบอนุญาตจาก กสทช) ถ้าทำสำเร็จก้อจะได้เงินก้อนใหญ่เข้ามาลงทุนต่อ เพราะธุรกิจนี้ลงทุนเยอะเหมือนกันเช่น Data Center แถมได้รับเงินช้า ทำให้ D/E ค่อนข้างสูง ต้องไปกู้ระยะสั้นมาหมุนอีกก้อจะตึงๆมือหน่อย คือต่อให้มีงานเข้ามาเยอะแต่ถ้าไม่มีเงินหมุนก้อจบ ผมเลยเลือก INET มากกว่า ITEL
ถ้าแก้ปัญหาเรื่องเงินทุนได้ น่าจะคล่องตัวขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายก้อจะลดลง รับงานใหญ่ๆได้มากขึ้น และจะได้มีเงินไปลงทุนสร้าง Data Center เพิ่มได้ สร้างเสร็จก้อเอามาขายเข้ารีทเอาเงินไปหมุนต่อ
ลองมาติดตามกันดูครับว่าจะเป็นยังไงต่อ มันจะดีจริงมั้ย หรือหลอกเม่าไปติดดอย 🤣
ปล. เทรดช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ ซื้อน้อยๆ คัทไวๆ SET ช่วงนี้น่ากลัว
INET TF - Day |
INET TF - Week |
Thursday, June 25, 2020
มาลองวิเคราะห์ SET 3TF (Day Week Month) กัน
บ่อนแตก !!!
มาลองวิเคราะห์ SET 3TF (Day Week Month) กันดูครับ
TF - Day
จากกราฟจะเห็นได้ว่า SET เปิดมาก้อกระโดดลงไปที่ SMA50 วันทันทีเลยแล้วก้อหลุดลงไป จนจบวันกลับขึ้นมายืนเหนือ SMA50 วันได้
ถ้าเราเทียบกับจุดสูงสุดรอบนี้ที่ราวๆ 1455 จุด ตอนนี้ถือว่าย่อลงมาราวๆ -9% ถ้าเดาแบบทั่วๆไปก้อเป็นไปได้ที่ SET จะรีบาวกลับขึ้นไปอีกครั้งในระยะสั้น แต่ก้อไม่น่าจะผ่านแถวๆ 1400 จุด แล้วอาจจะลงต่อ
ที่ผมเดาแบบนี้เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจมันแย่ แต่เงินยังล้นตลาด เราคงจะยังเห็นการเก็งกำไรอยู่เรื่อยๆ หมุนเวียนเป็นรายอุตสาหกรรมไป (รอบนี้ผมเห็นกลุ่ม ICT เล่นข่าวเรื่อง 5G กับกลุ่ม ETRON เล่นข่าวเรื่อง รถไฟฟ้า ไม่แน่พวกนี้อาจจะวิ่งก้อได้ เดาล้วนๆ)
TF - Week
TF - Month
ชัดเจนเช่นกัน แท่งเทียนของเดือนนี้น่าจะจบแดงแน่นอน โดจิเต็มๆ หรือจะเรียก Inverted Hammer ก้อแล้วแต่ ความหมายเดียวกันคือ มีแรงขายเยอะ ไปไม่พ้น รอดูแท่งต่อไปเดือนหน้า ถ้ายังแดงอีก ยืนยันเป็นขาลงต่อชัวร์ๆ
หรือจะดู MACD รอให้เส้นสีดำตัดขึ้นก่อนเป็นการยืนยันว่า SET จะกลับตัวเป็นขาขึ้น เพราะในภาพใหญ่รายเดือน SET ยังเป็นขาลงมาโดยตลอดตั้งแต่กลางปี 2018 ผมก้อยังเข้าไปเทรดอยู่ได้ ขาดทุนมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น บ้าจริงเชียว !!!
ปล. ทั้งหมดนี้ผมแค่เดาเอาสนุกๆ อย่าถือสากันนะ ใครคิดเห็นอย่างไรก้อเม้นมาคุยกันครับ 😁
Tuesday, June 23, 2020
ติ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าดอย 🌄
ติ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าดอย 🌄
Friday, June 19, 2020
สรุปแนวคิดบางส่วนจากบทสัมภาษณ์ เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์
สรุปแนวคิด "บางส่วน" จากบทสัมภาษณ์ เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์
สิ่งที่เซียนมี่จะดูเป็นหลัก
1. อุตสาหกรรม
ต้องเข้าใจธรรมชาติของอุตสาหกรรมนั้น เพราะแต่ละอุตสาหกรรมก้อมีอัตราการเติบโตที่แตกต่างกัน ถ้าอุตสาหกรรมไหนโตต่ำกว่า GDP ถ้าไม่ราคาถูกจริงๆก้อจะไม่เล่น เพราะถือว่ามันยากเกินไป ส่วนมากก้อจะเลือกแต่อุตสาหกรรมที่โตเท่ากับหรือมากกว่า GDP อย่างอสังหาโตประมาณ 1.5 เท่าของ GDP แบบนี้ถือว่าเล่นได้
2. ตำแหน่งทางการแข่งขัน Competitive Factor จุดที่จะชี้เป็นชี้ตายว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ
เช่นกลุ่มคอมโมดิตี้ เป็นอุตสาหกรรมที่แข่งขันแบบสมบูรณ์ ให้ดูที่การควบคุมต้นทุน บริษัทไหนที่คุมต้นทุนได้ดีกว่า มักจะเป็นผู้ชนะ เวลาที่อยู่ในช่วงขาลงก้อมักจะอยู่รอดได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก้อมักจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ เพราะจะมี Economy of Scale หรือการประหยัดต่อขนาด
แต่ถ้าเป็นพวกเครื่องสำอางค์ หรือสินค้าแบรนด์เนม จะไม่ได้ดูที่การควบคุมต้นทุนเป็นหลัก เพราะผู้ซื้อมักจะไม่ได้เน้นที่ราคาเป็นหลัก ต่อให้คุมต้นทุนได้ดีกว่า ขายถูกกว่า ก้อไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจของลูกค้า แต่อยู่ที่จุดขายหรือคาแรคเตอร์ของสินค้า ถ้าลูกค้าถูกใจก้อซื้อ เพราะฉะนั้นให้ดูว่าเวลาบริษัทออกสินค้าใหม่แล้วโดนใจลูกค้ามั้ย แล้วถ้าไม่โดนใจบริษัทมีการจัดการแก้ไขยังไง
หรือถ้าเป็นอุตสาหกรรมโรงแรม ให้ดูว่าใครอยู่ในโลเคชั่นที่ดี ถ้าเกิดตัดสินใจผิดไปเปิดโรงแรมอยู่ในโลเคชั่นที่ไม่ดี จะย้ายไปไหนก้อไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าโลเคชั่นดีก้อรุ่ง ถ้าโลเคชั่นแย่ก้อร่วง
3. ผู้บริหาร
- ต้องซื่อสัตย์ อย่าหวังได้ดีลดีๆจากคนไม่ดี
- ต้องมีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรม
- เป็นผู้บริหารที่ปรับตัวเก่ง หรือมีอายุน้อยหน่อย ต่ำกว่า 45 ปี ได้ก้อจะดี จะได้เข้าใจลูกค้ากลุ่มใหญ่อย่างกลุ่ม มิลลิเนี่ยล หรือ Gen Y (อายุประมาณ 24 – 40 ปี) ได้
เนื้อหาที่เป็นแนวคิดและหลักการที่ผมคิดว่าสำคัญก้อประมาณนี้ แต่ในบทสัมภาษณ์ยังมีความรู้เรื่องอื่นๆที่น่าฟังอีกนะครับ และในคลิปนี้ จะมีการพูดถึงกลุ่มอสังหาค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ใครสนใจก้อลองกดเข้าไปฟังดูครับ
ป้ายกำกับ:
ความรู้ม Knowledge,
เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์,
เซียนหุ้น,
บทความ
Subscribe to:
Posts (Atom)